เปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ได้ยาก… มันอยู่ที่ใจ

บ่อยครั้งที่ได้คุยหรือให้คำปรึกษากับเพื่อนๆที่สนใจ อยากทราบว่า ผมเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากคนที่ดูเหมือนอ้วน มีพุง จนเป็นคนที่มี 6 packs… ทำได้อย่างไร? ใช้เวลานานแค่ไหน?

ทุกครั้งผมก็จะตอบทุกคำถามที่ถามมา แต่ก็จะเกริ่นก่อนว่า มันไม่ได้มีวิธีลัด และ ต้องใช้เวลา ซึ่งผมก็อยากเอามาสรุปเป็นข้อๆให้ได้อ่านกันดังนี้

• เรื่องการกิน

การกินเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการมีสุขภาพที่ดี และ ทำให้เราสามารถลดน้ำหนักลงมาได้ การกินเพื่อลดน้ำหนัก ในปัจจุบันนี้ มีหลากหลายวิธีมากๆ หลากหลายสูตรมากๆ แต่ละคนก็มีปฎิกิริยากับการกินแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน เนื่องจาก คนเรามี Genetic หรือ ยีนส์ ที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะเป็นการยากมาก ที่จะบอกว่า ต้องกินแบบนี้ หรือ แบบนั้น แล้วจะได้ผลที่เหมือนกันกับทุกคน

วิธีต่างๆที่มี เรื่องของการกิน หรือ ไดเอทหลักๆ มีมากมายอย่างที่กล่าว ถ้าอยากทราบเพิ่มเติมก็สามารถ search หาได้ หรือ จะกดที่ link ข้างล่างนี้เพื่อศึกษาเพิ่มเติมเองได้

http://www.healthline.com/health-slideshow/diet-reviews#23

https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_diets

และทุกครั้งที่พูดแบบนี้ ทุกคนก็จะบอกว่า ไม่อยากรู้วิธีอื่น ให้บอกวิธีที่ผมใช้มา… ซึ่งเมื่อพูดให้ฟัง บางคนก็จะบอกว่าทำไม่ได้อะ ยากอะ ไม่ได้ทำอาหารกินเองคงทำไม่ได้… แล้วก็ไม่ได้เริ่มทำกัน หรือ ถ้าผมจะบอกวิธีอื่น ก็จะได้คำตอบกลับมาแบบนี้เหมือนกัน

บทสรุปของเรื่องการกิน วันนี้คงไม่ได้พูดว่าผมกินอย่างไร แต่แค่จะบอกว่า ไดเอทที่ได้ผล คือ ไดเอท ที่คุณสามารถทำได้ตลอดไป นั้นหมายถึงว่า มันเหมาะกับตัวคุณ และไม่ได้มีปัญหาในระยะยาว ถ้าคุณไม่สามารถทำมันได้ตลอดไป หมายความว่า ถ้าคุณเลิกกินไดเอทชนิดนั้น คุณก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป อีกประเด็นที่สำคัญคือ การกินอาหารแบบไดเอทในช่วงแรก คุณต้องทำไปอย่างน้อย 2-4 อาทตย์ ไม่ใช่ว่าทำไป 3-4 วันแล้วไม่เห็นผล ก็เลิก…. คนส่วนใหญ่ 95% ไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยการไดเอทไม่ว่าวิธีใดๆเพราะเลิกทำไปเองในเวลาไม่ถึง 7 วัน…. มันไม่ได้อยู่ที่ยากหรือไม่ยาก แต่มันอยู่ที่ความตั้งใจซะมากกว่าครับ.

ถึงตรงนี้ ทุกคนคงจะมีคำถามว่าผมกินอย่างไรอยู่ดี ใช่ไหมครับ? ผมลองทำมาหลายวิธีนะในอดีต แต่ตอนนี้ผมทำอยู่ 2 อย่างคือ Ketogenic diet (ซึ่งเคยได้นำเสนอไปแล้วใน post ก่อนๆ) กับ Intermittent Fasing (ไว้จะเขียนเรื่องนี้ให้อีกทีครับ)

อีกเรื่องที่สำคัญที่อยู่ในหมวดการกิน คือ คุณต้องดื่มน้ำให้มากเข้าไว้… วันละ 1-3 ลิตรต่อวัน อย่าลืมโดยเด็ดขาด

• เรื่องการออกกำลังกาย

คนมักจะเข้าใจผิดว่า การมี 6 packs คือ ต้องทำ sit up เยอะๆ ซึ่งไม่ได้เป็นความจริงเลย ต่อให้ทำ sit up 1,000 ครั้งต่อวัน แต่กินไม่ถูกต้อง มันก็จะไม่ได้ผลเลย

การออกกำลังกายเป็นการช่วยให้ร่างการเราเผาพลาญพลังงานที่เรากินเข้าไป ช่วยทำให้ร่างกายเอาพลังงานที่สะสมในรูปของไขมันในร่างกายออกมาใช้ ทำให้ bodyfat % ของเราน้อยลง ถ้า  bodyfat % ของร่างกายต่ำกว่า 12% นั้นแหละจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเห็น 6 packs ลางๆ ดังนั้นการ sit up ในช่วงแรกไม่ได้ช่วยอะไร แต่เป็นการกินที่เหมาะสม และ การออกกำลังกายที่เน้นทุกส่วนของร่างกายต่างหาก ที่จะทำให้ bodyfat % ของเราลดลงมาได้

การออกกำลังกายของผมเอง ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก ผมไม่ได้ต้องเสียเงินเพื่อเข้ายิม… ผมทำแค่ 2 อย่าง คือ Cardio training กับ Resistant training

Cardio training/HIIT/Circuit Training

ที่ผมเลือกใช้คือการวิ่ง บางคนที่ไม่ชอบวิ่ง ก็อาจเลือกเป็น เดิน กระโดดเชือก ว่ายน้ำ หรือ ขี่จักรยาน ก็ได้เหมือนกัน แต่จุดประสงค์คือ ทำให้ร่างกายเข้าไปอยู่ใน fat burning zone… การวิ่ง ผมก็จะไม่ได้วิ่งเอาเวลาหรือระยะทาง เพราะ ไม่ได้ฝึกเพื่อไปวิ่งมาราธอน แต่จะเน้นให้ heart rate อยู่ในช่วงโซน 2 ซึ่งเป็น Fat burning zone…. ไว้ว่างๆจะหาข้อมูลเรื่อง Zone 2 มาเล่าให้ฟัง แต่วันนี้คงบอกได้แค่ว่า วิ่ง ว่ายน้ำ หรือ ขี่จักรยาน ในระดับที่ยังพูดคุยได้ หายใจไม่ติดขัด เป็นเวลา 25-30 นาที ทำแบบนี้สัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หวังว่าคงจะไม่ได้ยากจนเกินไป

Resistant training

คือการออกกำลังกายโดยฝืนแรงโน้มถ่วงของโลก คำอธิบายง่ายๆคือการยกน้ำหนัก หรือ เข้ายิม อย่างที่ทุกคนรู้จักนั้นเอง ผมเองก็ยกน้ำหนักมาก่อนครับ ถ้าใครเข้ายิมเป็นประจำอยู่แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ส่วนตัวผมเอง ก็อยากเข้ายิมนะ แต่ ผมไม่มียิมให้เล่น ผมก็ใช้วิธีพื้นๆคือ วิดพื้น ดึงข้อ อยู่บ้าน ทำเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเดินทาง ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย… สรุปคือ หาวิธีที่จะทำ Resistant training สัก 2-3 ครั้ง ต่อ อาทิตย์ จะช่วยเรื่องการเผาพลาญได้ดีครับ ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักให้เร็วขึ้น

• เรื่องการพักผ่อน

ร่างกายคนเราจะ burn fat ตอนที่เรานอนพักผ่อน เชื่อหรือไม่? เราควรจะนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ข้อนี้เป็นข้อที่ผมทำได้แย่ที่สุดครับ… เอาเป็นว่า หาเวลานอนให้เยอะๆ จะช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ครับ

เรื่องเล่าตอนนี้ ก็เขียนมาซะยาว… คงจะมีสาระบ้างไม่มากก็น้อย อยากให้ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนแล้วลุยอย่างตั้งใจ ถ้าอยากทราบเรื่องไหนเพิ่มเติมก็กรุณา Comment เข้ามาได้นะครับ จะพยายามตอบให้เท่าที่ความรู้จะมีครับ…

ขอบคุณครับ

NuEnG KetoDaddy